ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเยน หลังยอดค้าปลีกดิ่งมากสุดในรอบ 9 ปี

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบค่ากับสกุลเงินเยน หลังจากตัวเลขมูลค่าค้าปลีกในสหรัฐฯ ซึ่งลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ ก.ย. 2009 ส่งสัญญาณว่ากำลังซื้อในหมู่ผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็น 2 ใน 3 ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังอยู่ในภาวะซบเซาลง

“ข้อมูลยอดค้าปลีกได้ตอกย้ำความเห็นที่ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้คงที่ในปีนี้” นายนิค ทวิเดล ผู้บริหารของบริษัทบริหารหลักทรัพย์ Rakuten Securities Australia กล่าวถึงยอดค้าปลีกที่ถูกเผยแพร่เมื่อวานนี้

“คู่สกุลเงิน USD/JPY เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงมุมมองของนักลงทุนที่ไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยงในตอนนี้… ผมคาดว่าเงินเยนจะแข็งค่าขึ้นไปพร้อมกับฟรังก์สวิส”

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน 0.5% ในช่วงซื้อขายข้ามคืน และยังคงตัวในระดับดังกล่าวในช่วงการซื้อขายในเอเชียเมื่อเช้าที่ผ่านมา ขณะที่เงินเยนยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรที่ 124.67 เพิ่มขึ้นราว 0.2%

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความเข้มแข็งของสกุลเงินของสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลัก นั้นคงตัวอยู่ที่ 97.01 หลังจากปรับลง 0.12% ในช่วงการซื้อขายก่อนหน้านั้น