简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:Mark Cuban นักลงทุนมหาเศรษฐีได้แสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลมีเดียของเขา โดยเขาเชื่อว่าบิทคอยน์นั้นดีกว่าทองคำ
Mark Cuban นักลงทุนมหาเศรษฐีได้แสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลมีเดียของเขา โดยเขาเชื่อว่าบิทคอยน์นั้นดีกว่าทองคำ ในฐานะเรือธงของคริปโตเคอร์เรนซีที่ง่ายต่อการซื้อขาย โอน และแปลง ซึ่งทั้งบิทคอยน์และทองคำต่างถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ
โดยบางคนเรียกบิทคอยน์ว่าเป็น ‘ทองคำ 2.0’ Oliver Renick แห่ง TD Ameritrade ได้ตั้งคำถามว่าการเติบโตของบิทคอยน์กับดอกเบี้ยที่แท้จริงของมัน ยังคงเป็นแบบสุ่มเหมือนกับเมื่อ 10 ปีที่แล้ว หรือสิ่งที่เขาจะบอกก็คือคริปโตเคอร์เรนซีไม่เหมาะที่จะเป็นที่ป้องกันความเสี่ยง ในทวีตตอบกลับของ Cuban เขาแสดงความคิดเห็นว่าบิทคอยน์นั้นไม่ต้องการคนกลางและสามารถแยกส่วนได้ พร้อมกับกล่าวว่าคริปโตเคอร์เรนซีไม่จำเป็นต้องมี ‘โฆษณาประเภท William Devane’ เพื่อขายคริปโตเคอร์เรนซีในฐานะของสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
Devane เป็นนักแสดงในละครยอดนิยมเรื่อง Knots Landing ที่ซึ่งเมื่อทศวรรษที่แล้วเขาได้โปรโมตทองคำให้กับ Rosland Capital โดยบอกว่าทองคำเป็นสกุลเงินเดียวที่เขาเชื่อใจ “ทองคำแทบจะไร้ประโยชน์ทั้งหมด โดยเฉพาะในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง BTC เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่เหมือนกับทองคำ เพราะพวกมันถูกขับเคลื่อนด้วยอุปสงค์อุปทานเท่านั้น ซึ่ง BTC ทำงานได้ดีกว่า” Mark Cuban กล่าวเสริม
Cuban เชื่อว่า ณ ตอนนี้ทองคำยังคงมีอุปสงค์มากกว่าบิทคอยน์ แต่เขาเชื่อว่ามันจะเปลี่ยนไปเมื่อบิทคอยน์สามารถทำธุรกรรมได้ง่าย และเมื่อมีความเข้าใจเกี่ยวกับบิทคอยน์มากยิ่งขึ้น พร้อมกับคาดการณ์ว่าตลาดทองคำจะหดตัวลง ข้อมูลจาก CryptoGlobe รายงานว่า เมื่อเดือนที่แล้ว Cuban ได้ทำการลงทุนใน Ethereum layer-two scaling solution Polygon (MATIC) แต่ไม่ได้เปิดเผยขนาดของการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีของเขา
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ความเสี่ยงในการลงทุนในคริปโต
Malone Lam ชาวสิงคโปร์วัย 20 ปี ถูกตั้งข้อหาในสหรัฐฯ ฐานขโมย 4,100 BTC มูลค่า 230 ล้านดอลลาร์ โดยใช้วิธีหลอกลวงเหยื่อผ่าน social engineering และฟอกเงินด้วย crypto mixers หากถูกตัดสินว่าผิด เขาอาจถูกจำคุกสูงสุด 20 ปี โดยมีกำหนดไต่สวนวันที่ 6 ตุลาคม 2025
แม้ว่า Bitcoin จะถูกออกแบบให้เป็น "เงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบ Peer-to-Peer" แต่ปัจจุบันกลับถูกใช้เป็นสินทรัพย์เก็บมูลค่ามากกว่าการใช้จ่ายจริง อุปสรรคหลักที่ขัดขวางการใช้งานในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ความซับซ้อนของเทคโนโลยี ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม ความล่าช้า และความผันผวนของราคา อย่างไรก็ตาม Lightning Network ได้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ทำให้การทำธุรกรรมรวดเร็วขึ้นและต้นทุนต่ำลง ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มรองรับ Bitcoin มากขึ้น เช่น การชำระเงินผ่าน POS การโอนเงินแบบ Lightning Address และการใช้ The Bolt Card Bitcoin กำลังพัฒนาไปสู่การเป็นระบบการเงินที่ใช้งานได้จริง ซึ่งอาจทำให้กลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่แพร่หลายทั่วโลกในอนาคต
นักวิเคราะห์เตือน! ราคา Bitcoin หลุดแนวรับสำคัญแล้ว เป้าราคาต่อไปอาจอยู่ที่ $69,000