简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพฤหัสบดี(19ส.ค.)ร่วงลง 66 จุด ขณะที่นักลงทุนกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) เร็วกว่าที่คาดไว้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 66.57 จุด หรือ 0.19% ปิดที่34,894.12 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 5.53 จุดหรือ 0.13% ปิดที่ 4,405.8 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 15.87 จุดหรือ 0.11% ปิดที่ 14,541.79 จุด
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มสายการบิน ต่างร่วงลงในการซื้อขายวันนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงเช่นกัน ตามราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงเกือบ 4%
ทั้งนี้ รายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ของเฟดระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องที่จะเริ่มปรับลดวงเงินคิวอีในปีนี้
ปัจจุบัน เฟดซื้อพันธบัตรตามมาตรการคิวอีอย่างน้อย 120,000 ล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 80,000 ล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (เอ็มบีเอส) ในวงเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์
นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เฟดควรทำการประกาศในเดือนหน้าเกี่ยวกับไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงินคิวอี และเริ่มทำการปรับลดคิวอีในเดือนต.ค.
คำกล่าวของนายแคปแลนสอดคล้องกับถ้อยแถลงของนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด ที่ได้ส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับลดวงเงินคิวอี ภายในปีนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ขณะที่นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ว่าการของเฟด กล่าวเช่นกันว่า เฟดควรจะเริ่มปรับลดวงเงินคิวอีภายในเดือนต.ค.
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินคิวอีในการประชุมดังกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่โกลด์แมน แซคส์ ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 3 เหลือ 5.5% จากเดิมที่ระดับ 9% โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐจะพุ่งขึ้นสูงกว่าคาดในช่วงที่เหลือของปีนี้
สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไร้ทิศทางในวันนี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกต่ำสุดในรอบ 17 เดือน ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน อย่างไรก็ดี เฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจมิด-แอตแลนติกต่ำสุดรอบ 8 เดือน ซึ่งบ่งชี้ถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐ
แนะนำฟีเจอร์ “การสำรวจ” การสำรวจโบรกเกอร์บน WikiFX คือทีมงาน WikiFX ลงพื้นที่จริงในต่างประเทศเพื่อสำรวจสำนักงานโบรกเกอร์ Forex ทั่วโลก คุณจะได้เห็นว่าโบรกเกอร์มีสำนักงานจริงตามที่อ้างหรือไม่ และสำนักงานยิ่งใหญ่ขนาดไหน!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันจันทร์ (29 พ.ย.)ปรับตัวขึ้น 236 จุด หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐไม่มีแผนล็อกดาวน์เศรษฐกิจเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 15.73 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 35,756.88 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 8.31 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 4,574.79 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 9.01 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 15,235.72 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันศุกร์ (27ส.ค.)พุ่งขึ้น 242 จุดหลังประธานเฟดส่งสัญญาณชัดเจนว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ก่อนสิ้นปีนี้
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพฤหัสบดี(26ส.ค.)ปรับตัวร่วงลง 53 จุด หลังเปิดตลาดในแดนบวก ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมประจำปีของเฟดในวันนี้