ราคาทองคำปรับตัวลง โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์

สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 10.64 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ระหว่างวันราคาทองคําจะดีดตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,857.66 ดอลลาร์ต่อออนซ์

โดยราคาทองคําได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟต)จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย “อย่างแข็งกร้าว” ต่อไป ประกอบกับ | นักลงทุนกลับมาปีตรับความเสี่ยงอีกครั้ง ซึ่งช่วยกระตุ้นแรงซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยเพิ่มเติม ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ติตตัวสู่ระดับ 3.06% ก่อนที่กระทรวงการคลังสหรัฐจะออกประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 9.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 3 ปีมูลค่า 4.4 หมื่นล้าน ดอลลาร์ในวันอังคาร, พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 3 ปีมูลค่า 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันพุธ และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีมูลค่า 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีในสัปดาห์นี้ สถานการณ์ดังกล่าวนอกจากจะดันทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของตอกเบี้ยเพิ่มเติมแล้วนั้น ยังเป็นปัจจัยสําคัญที่ช่วยหนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นอีก

ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาทองร่วงลงเส้นค่าเฉลี่ย 10, 21 และ 200 วันบริเวณ 1,849-1,841 ดอลลาร์ต่อออนซ์จนกระทั่งสร้างระดับต่ําสุดบริเวณ 1,836.80 ตอลลาร์ต่อ ออนซ์ในระหว่างการซื้อขายของเช้าวันนี้ในตลาดเอเซีย ต้านทองทุน SPDR ถือครองทองคําลดลง -2.98 ต้น สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตุลการค้าของสหรัฐ

หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,849 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคง ต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขาย ออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำปรับตัวลงไม่มากราคาจะยังแกว่งตัวในกรอบ ซึ่งประเมินแนว รับระยะสั้นในโซน 1,827 ดอลลาร์ต่อออนซ์

คําแนะนํา เปิดสถานะขาย $1,849-1,863

จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,827

ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,863

บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International