简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ราคาทองคําวานนี้ปิดดิ่ง โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์
สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดดิ่งลง 30.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ ตอบรับผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยในปีหน้า และจะ “คง” อัตราดอกเบี้ยไว้ที่จุดสูงสุดจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงอย่างยั่งยืน โดยไม่รีบร้อนผ่อนคลายนโยบายการเงินก่อนเวลาอันควร สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ ราคาทองคําร่วงลงหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 200 วันซึ่งกระตุ้นแรงขายทางเทคนิคเพิ่ม จนเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคําทดสอบระดับต่ําสุดบริเวณ 1,774.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคําฟื้นตัวในช่วงสั้นในช่วงตลาดสหรัฐ โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ส่วนใหญ่ออกมา “ต่ํากว่าคาด” ไม่ว่าจะเป็นยอดค้าปลีกที่ดิ่งลง 0.6% ในเดือนพ.ย. ซึ่ง เป็นการร่วงลงมากที่สุดในรอบ 11 เดือน, การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐที่ลดลง 0.2% ในเดือนพ.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%, Empire State Index ที่ดิ่งลงสู่ ระดับ -11.2 ในเดือนธ.ค. ต่ํากว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -0.5 และดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -13.8 ในเดือนธ.ค. แต่ต่ํากว่าที่นักวิเคราะห์ คาดการณ์ที่ระดับ -10.0 สถานการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งช่วยกระตุ้นแรงซื้อพันธบัตรระยะยาวในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจนเป็นปัจจัยหนุนทอง แต่เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยเช่นกัน จึงเป็นปัจจัยสําคัญที่สกัดช่วงบวกและกลับมากดดันราคาทองคําในที่สุด ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคํา เพิ่มขึ้น +2.32 ตัน สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของสหรัฐ
หลังจากราคาทิ้งตัวลง หากรักษาระดับได้ท าให้ราคามีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านในโซน 1,794-1,808 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนเหนือแนวต้านไม่ได้ แสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะสั้น จ ากัด ราคามีโอกาสปรับตัวลงไปทดสอบ แนวรับโซน 1,769-1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (1,765 ระดับต ่าสุดของเดือนธ.ค.)
คําแนะนํา เปิดสถานะขาย $1,794-1,808
จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,769-1,765
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,824
ที่มา : TH.investing
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ก่อนวิกฤตต้มยำกุ้ง ไทยใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ แต่หลังถูกโจมตีค่าเงิน ธปท. ประกาศลอยตัวค่าเงินบาทเมื่อ 2 ก.ค. 1997 ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าหนัก ปัจจุบันดัชนีค่าเงินบาท (NEER) แข็งค่าสูงสุดนับตั้งแต่ก่อนวิกฤต เนื่องจากการท่องเที่ยวฟื้นตัว ราคาทองคำสูงขึ้น และเงินทุนไหลเข้า อย่างไรก็ตาม เงินบาทแข็งกระทบความสามารถแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย เสี่ยงเข้าสู่ภาวะ "Dutch Disease" ที่ภาคบริการบูม แต่ภาคอุตสาหกรรมเสียเปรียบ
บทวิเคราะห์ทองคำ
SkyLine Spotlight: XM เป็นผู้นำแห่งอนาคตด้วยความเป็นเลิศ
5 อันดับโบรกเกอร์ยอดนิยมประจำเดือน