简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ตลาดจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ หาสัญญาณเงินเฟ้อ-ทิศทางดอกเบี้ยก่อนการประชุมเฟด
นักลงทุนติดตามข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะช่วยชี้นำนโยบายการเงินได้มากขึ้น ควรระมัดระวังความผันผวนในช่วงทยอยรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ (จะรับรู้ในช่วง 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย)
จากสถิติในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พบว่า เงินบาทสามารถแกว่งตัวอ่อนค่าลง 0.2% และแข็งค่าขึ้นได้ราว 0.4% ภายใน 30 นาที หลังตลาดทยอยรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI โดยเรายังให้โอกาสเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น หลังรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI มีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่อง ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไป headline CPI ที่ปรับตัวขึ้นนั้นเป็นผลจากราคาพลังงานเป็นหลัก ซึ่งเฟดอาจให้น้ำหนักต่อทิศทางของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI มากกว่า
ดัชนีดอลลาร์ และ ดัชนีดอลลาร์ฟิวเจอร์ส เคลื่อนไหวเล็กน้อยในการซื้อขายตลาดเอเชีย แต่ก็ใกล้เคียงกับระดับที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม
ข้อมูลที่จะเปิดเผยในช่วงหลังของวันคาดว่าจะแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อ ดัชนีราคาผู้บริโภค ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนสิงหาคมจากเดือนก่อน ท่ามกลางต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นและการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่คงที่
รายงานอัตราเงินเฟ้อที่แข็งแกร่งขึ้นจะทำให้เฟดมีพื้นที่ว่างมากขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยรายงานถูกเปิดเผยเพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนการประชุมเฟด
ธนาคารกลางได้รับการคาดหวังอย่างกว้างขวางว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ แต่สัญญาณของภาวะเงินเฟ้อที่ร้อนเกินไปอาจกระตุ้นให้เกิดแนวโน้มที่ Hawkish มากขึ้นจากเฟด เนื่องจากได้เตือนแล้วว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะยังคงสูงขึ้นต่อไปอีกนาน
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 93% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย. แต่ให้น้ำหนักเพียง 56% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน พ.ย.
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
Markets.com
IB
Neex
AvaTrade
Saxo
FOREX.com
Markets.com
IB
Neex
AvaTrade
Saxo
FOREX.com
Markets.com
IB
Neex
AvaTrade
Saxo
FOREX.com
Markets.com
IB
Neex
AvaTrade
Saxo
FOREX.com