简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:Bitcoin ร่วงแรง 6% หลังทุนสำรองของทรัมป์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการซื้อของรัฐบาล
ร่วงลงในวันศุกร์ หลังจากที่กองทุนสำรองคริปโตที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลของรัฐบาล ซึ่งบ่งชี้ว่ากองทุนสำรองดังกล่าวมีผลกระทบต่อตลาดจริงเพียงเล็กน้อย
Bitcoin ร่วงลงมากถึง 6% เหลือ 84,864.3 ดอลลาร์ หลังจากมีการประกาศกองทุนสำรองดังกล่าว
เดวิด แซ็กส์ ซีอีโอของทำเนียบขาวด้านคริปโต กล่าวเมื่อเย็นวันพฤหัสบดีว่า ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อจัดตั้งกองทุนสำรองคริปโตเชิงยุทธศาสตร์ รวมถึงกองทุนสำรองสินทรัพย์ดิจิทัลที่กว้างขึ้น
อย่างไรก็ตาม กองทุนสำรองดังกล่าวจะไม่เกี่ยวข้องกับการซื้อคริปโตใด ๆ ที่ได้รับทุนจากรัฐบาล และจะเก็บ Bitcoin และคริปโตอื่น ๆ ที่ถูกยึดโดยรัฐบาลกลางในกระบวนการทางอาญาและทางแพ่งแทน
กระทรวงยุติธรรมมี Bitcoin ประมาณ 200,000 เหรียญ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 17,000 ล้านดอลลาร์ โดยอิงจากราคาปัจจุบัน หน่วยงานได้ขายสินทรัพย์บางส่วนในตลาดเปิดเป็นระยะ ๆ ผ่าน Coinbase (NASDAQ:COIN)
แม้ว่าคำสั่งเมื่อวันพฤหัสบดีจะไม่มีการขายสกุลเงินดิจิทัลในอนาคตโดยรัฐบาล แต่การไม่มีการซื้อใหม่ทำให้รัฐบาลไม่สนับสนุนตลาดนี้ การคาดเดาเกี่ยวกับสำรอง Bitcoin ที่ทรัมป์ประกาศมานานรวมถึงความหวังที่เขาจะโน้มน้าวให้รัฐสภาจัดตั้งสำรอง ซึ่งสถานการณ์นี้แม้จะไม่น่าจะเกิดขึ้น แต่รัฐบาลอาจต้องซื้อสกุลเงินดิจิทัลดังกล่าว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ได้ระบุสกุลเงินดิจิทัล 5 ประเภท ได้แก่ Bitcoin, Ether, Solana, Cardano และ XRP ที่จะอยู่ในสำรองของเขา สกุลเงินดิจิทัลทั้ง 5 ร่วงลงในวันศุกร์
ขอบคุณข้อมูลจาก Investing Thailand
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
Malone Lam ชาวสิงคโปร์วัย 20 ปี ถูกตั้งข้อหาในสหรัฐฯ ฐานขโมย 4,100 BTC มูลค่า 230 ล้านดอลลาร์ โดยใช้วิธีหลอกลวงเหยื่อผ่าน social engineering และฟอกเงินด้วย crypto mixers หากถูกตัดสินว่าผิด เขาอาจถูกจำคุกสูงสุด 20 ปี โดยมีกำหนดไต่สวนวันที่ 6 ตุลาคม 2025
แม้ว่า Bitcoin จะถูกออกแบบให้เป็น "เงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบ Peer-to-Peer" แต่ปัจจุบันกลับถูกใช้เป็นสินทรัพย์เก็บมูลค่ามากกว่าการใช้จ่ายจริง อุปสรรคหลักที่ขัดขวางการใช้งานในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ความซับซ้อนของเทคโนโลยี ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม ความล่าช้า และความผันผวนของราคา อย่างไรก็ตาม Lightning Network ได้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ทำให้การทำธุรกรรมรวดเร็วขึ้นและต้นทุนต่ำลง ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มรองรับ Bitcoin มากขึ้น เช่น การชำระเงินผ่าน POS การโอนเงินแบบ Lightning Address และการใช้ The Bolt Card Bitcoin กำลังพัฒนาไปสู่การเป็นระบบการเงินที่ใช้งานได้จริง ซึ่งอาจทำให้กลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่แพร่หลายทั่วโลกในอนาคต
นักวิเคราะห์เตือน! ราคา Bitcoin หลุดแนวรับสำคัญแล้ว เป้าราคาต่อไปอาจอยู่ที่ $69,000
เหตุการณ์ล่มสลายของ FTX เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับนักลงทุนคริปโตทั่วโลก จากแพลตฟอร์มที่เคยได้รับความไว้วางใจสูงสุด สู่การล้มละลายในเวลาไม่กี่วัน ปัญหาเกิดจากความเชื่อมโยงทางการเงินที่ไม่โปร่งใสระหว่าง FTX และ Alameda Research นำไปสู่ความตื่นตระหนกของนักลงทุน การเทขายโทเค็น FTT และการขาดสภาพคล่อง สุดท้าย FTX ต้องยื่นล้มละลาย และ SBF ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง เหตุการณ์นี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสอบพื้นฐานบริษัท การกระจายความเสี่ยง และการเก็บสินทรัพย์ในกระเป๋าส่วนตัว มากกว่าฝากไว้กับแพลตฟอร์มเพียงแห่งเดียว