简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ประสบการณ์ 1 ปีของนักเทรดรายนี้สะท้อนถึงความท้าทายในตลาด Forex ที่ไม่ได้หอมหวานเสมอไป แม้จะเริ่มจากกำไรจนสร้างความมั่นใจ แต่การพ่ายแพ้ซ้ำ ๆ และความผันผวนของตลาดทำให้เขาต้องออกจากวงการ การบริหารความเสี่ยงและการควบคุมอารมณ์จึงเป็นหัวใจสำคัญในการอยู่รอดในตลาดนี้ การรู้จังหวะถอยอาจเป็นกลยุทธ์ที่ดีกว่าการฝืนต่อไปจนขาดทุนหนัก
แอดเหยี่ยวได้เห็นโพสต์จากนักเทรดคนหนึ่งที่มาแชร์ประสบการณ์การเทรดในวงการ 1 ปี ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่หอมหวานเหมือนที่หลายคนคิด แต่กลับจบลงด้วยการตัดสินใจออกจากวงการไป เรื่องนี้น่าสนใจมาก โดยเฉพาะสำหรับนักเทรดมือใหม่ที่อาจจะเริ่มรู้สึกว่า “มือกำลังขึ้น” จนอาจลืมระวังหลังได้ เรื่องราวนี้จะเป็นยังไง? ไปติดตามกันเลยดีกว่า!
เรื่องราวมีอยู่ว่า...
ผมอยู่ในวงการนี้มา 1 ปีแล้ว และผมคิดว่าวันนี้คงเป็นวันที่ผมจะต้องออกจากวงการจริงๆ ละแหละครับ ก่อนที่ผมจะขาดทุนไปมากกว่านี้ เพราะว่าเดี๋ยวนี้กราฟมันก็ไม่เป็นไปตามแผนผมเลยซักนิด ผมแพ้ตลอด ผมรอแล้วรออีกในการเข้าออเดอร์ วันนี้ผมก็รอตั้งแต่เช้ายัน 5 โมงในการเข้าออเดอร์เดียว เพราะมั่นใจในเทคนิค แต่ก็นะมันก็แพ้ บริหารความเสี่ยงก็แล้ว ผมลองเทคนิคก็แล้ว มันก็ยังแพ้ ผมก็ไม่รู้ว่า มันเป็นเพราะอะไร เอาล่ะ ไหนๆ ก็จะออกแล้ว ผมจะมาเล่าเรื่องประสบการณ์เทรดของผมละกัน...
แต่ก่อนผมเคยเทรดเอาโบนัสฟรีจากแอปฯ หนึ่งที่มันจะให้โบนัสเทรดฟรี ถ้าเทรดจากทุน 30 ดอลไปครบ 100 ดอล ก็จะถอนออกมาได้ 50 ดอล เงื่อนไขก็ค่อนข้างเยอะ แต่อัตราเลเวอเรจก็สูงถึง 1:500 ดูท่าทางถ้าจะทำครบภายใน 12 ชั่วโมงคงจะยาก แต่ผมก็ทำมันได้ ตอนนั้นผมภูมิใจในตัวเองมาก และผมก็ทำการถอนออกมาแบ่งให้ยายใช้ 500 เหลือไว้เทรด 1000 วันนั้นก็สุขใจสบายใจ...
ผ่านมา 3-4 วัน ผมก็ทำการเทรดจนได้กำไรมา 1 หมื่น ผมดีใจมาก ตอนนั้น ผมเลยถอนออก 6000 กว่าๆ มั้ง แล้วก็เก็บอีกราวๆ 4000 เอาไว้เทรดต่อ...ผมก็เทรดไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็แตก...
ผมศึกษาหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องอารมณ์ในการเทรด การรอคอยต่างๆ รวมถึงเทคนิค และผมก็กลับมาเทรดอีกครั้งด้วยทุน 10 ดอล แต่ก็แตก แล้วก็กลับมาเทรดอีก ก็แตก 4-5 รอบ...จนมาถึงรอบที่ 6 มั้ง ผมก็เทรดได้กำไรเรื่อยๆ ได้วันละ 5-10 ดอล บางวันก็ได้เยอะกว่านี้ จนผลรวมคือผมได้กำไรมากกว่าเสีย...
ผมก็เทรดต่อไปเรื่อยๆ จนมันมาถึงวันนึง วันที่ผมแตก...วันนั้น ผมได้ทำการเข้าออเดอร์ในโซนที่ผมมั่นใจ แต่ก็แพ้...และเหมือนเดิม ผมก็ยังคงเชื่อมั่นในเทคนิคการเทรดของผม ผมเทรดไปเรื่อยๆ และมันก็เริ่มแพ้ ตอนนั้นผมก็เอะใจว่าทำไมถึงแพ้...ผมก็ปรับแผนเทรดอะไรต่างๆ แต่สุดท้ายมันก็แพ้...พอร์ตผมก็แตก...
สุดท้ายผมก็วนกลับเอาทุนมาเทรด 2-3 รอบ ก็แตก จนมาถึงรอบนี้ ซึ่งมันเป็นรอบสุดท้าย...ผมมั่นใจในแผนมาก แต่ก็แพ้...ผมเลยเหนื่อยแล้ว มันเริ่มผิดสังเกต ผมเลยกะจะออกจากวงการนี้ก่อนจะขาดทุนไปมากกว่านี้...ผมท้อจนเสียความรู้สึก...ตอนนี้ผมไม่มั่นใจในเทคนิคตัวเองเลย...เคยมั่นใจมาหลายรอบแล้ว แต่มันก็เหมือนแพ้เดิม...
จนสุดท้ายผมคิดว่า เราต้องออกละไม่งั้นจากผลรวมบวกจะกลายเป็นขาดทุน...แถมช่วงนี้รู้สึกว่ากราฟมันไม่เหมือนเดิม หรือว่าผมไม่เหมือนเดิม...ผมก็ไม่รู้...เลยตัดสินใจจะออกจากวงการเทรด...เพราะส่วนตัวผมรับไม่ไหวแล้ว...ผมเหนื่อย...ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
บทสรุป จากประสบการณ์ของนักเทรดท่านนี้ ทำให้เราเห็นถึงความยากลำบากและความท้อแท้ที่เกิดขึ้นเมื่อเผชิญกับการพ่ายแพ้ซ้ำๆ แม้จะมีความมุ่งมั่นและพยายามปรับแผนเทรดหลายครั้ง แต่บางครั้งการเทรดก็ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง การตัดสินใจออกจากวงการในช่วงเวลาที่เหมาะสมอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อไม่ให้การขาดทุนเพิ่มขึ้นจนเกินไป การรู้จักยอมรับความผิดพลาดและการพิจารณาตัวเองในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงความเสียหายและรักษาทุนเอาไว้ได้ การเทรดไม่ใช่แค่การชนะ แต่ยังเกี่ยวข้องกับการจัดการกับอารมณ์และความเสี่ยงอย่างรอบคอบ.
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
AvaTrade
FXCM
GO Markets
Trive
XM
Markets.com
AvaTrade
FXCM
GO Markets
Trive
XM
Markets.com
AvaTrade
FXCM
GO Markets
Trive
XM
Markets.com
AvaTrade
FXCM
GO Markets
Trive
XM
Markets.com