简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:นโยบายภาษีชุดใหม่ของทรัมป์ที่ประกาศเมื่อ “วันปลดปล่อย” ได้จุดชนวนความตึงเครียดทางเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยการขึ้นภาษีเกิน 25% อาจเร่งเงินเฟ้อและซ้ำเติมตลาดแรงงาน นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลง 1.25% ภายในปีนี้ ขณะเดียวกัน รัฐบาลใช้รายได้จากภาษีเป็นเครื่องมือทั้งเศรษฐกิจและการเมือง
นโยบายภาษีตอบโต้ที่ประกาศโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 2 เมษายน ซึ่งถูกเรียกว่า “วันปลดปล่อย” กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในสงครามการค้า โดยการขึ้นภาษีที่สูงเกินคาด อาจนำไปสู่เงินเฟ้อระลอกใหม่และเพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก
ภาษีที่เคยอยู่ในระดับหลักเดียวเมื่อไม่กี่เดือนก่อน บัดนี้พุ่งขึ้นเกิน 25% ซึ่งถือว่าสูงผิดคาด นักวิเคราะห์ของ Citi มองว่า ภาษีเหล่านี้อาจคงอยู่ต่อไปอีกหลายเดือน ส่งผลให้เงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นใกล้ระดับ 4% ภายในสิ้นปี
ตลาดแรงงานอ่อนแอ หนุนเฟดลดดอกเบี้ย
แม้จะมีแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น แต่นักวิเคราะห์ของ Citi เชื่อว่าความอ่อนแอในตลาดแรงงานจะเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
“เราคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวม 125 จุดพื้นฐาน (หรือ 1.25%) ภายในปีนี้” นักวิเคราะห์ Citi ระบุ
ภาษีสร้างรายได้ให้รัฐ – ใช้เป็นเครื่องต่อรองทางการเมือง
แม้ว่าภาษีจะเพิ่มแรงกดดันด้านต้นทุนและเงินเฟ้อ แต่รัฐบาลทรัมป์สามารถใช้สิ่งนี้เป็นข้อได้เปรียบทางการเมือง โดยคาดว่า ภาษีชุดใหม่นี้สามารถสร้างรายได้ให้รัฐประมาณ 700 พันล้านดอลลาร์ต่อปี หากการขาดดุลการค้ายังคงเดิม
รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ นาง Bessent ยังระบุว่า รายได้ดังกล่าวอาจถูกนำไปใช้เพื่อลดภาษีบุคคลเพิ่มเติม ซึ่งช่วยบรรเทาผลกระทบของภาษีสินค้า
นักวิเคราะห์คาดว่า ร่างกฎหมายการประนีประนอมอาจผ่านได้ในช่วงฤดูร้อนปีนี้ ซึ่งอาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้รัฐบาลทรัมป์ยังคงภาษีใหม่นี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ขอบคุณข้อมูลจาก investing thailand
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
IC Markets Global
Saxo
ATFX
Exness
XM
AvaTrade
IC Markets Global
Saxo
ATFX
Exness
XM
AvaTrade
IC Markets Global
Saxo
ATFX
Exness
XM
AvaTrade
IC Markets Global
Saxo
ATFX
Exness
XM
AvaTrade