简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:สมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ เสนอร่างกฎหมายใหม่เพื่อเก็บภาษีรายได้จากคริปโทในเปอร์โตริโก หลังพบช่องโหว่ทางภาษีดึงดูดนักลงทุนย้ายถิ่นแต่ไม่ช่วยเศรษฐกิจท้องถิ่น ร่างกฎหมายนี้อาจส่งผลต่อสิทธิประโยชน์ภายใต้ Act 60 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ขณะที่อนาคตของร่างกฎหมายยังไม่แน่นอนท่ามกลางการถกเถียงในสภา.
สมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ กำลังผลักดันร่างกฎหมายใหม่เพื่อจัดการกับนักลงทุนคริปโทที่ใช้ “เปอร์โตริโก” เป็นแหล่งหลบเลี่ยงภาษี โดยล่าสุด Nydia Velázquez ส.ส.จากรัฐนิวยอร์ก เสนอร่างกฎหมาย “Fair Taxation of Digital Assets in Puerto Rico Act” เพื่อปรับโครงสร้างภาษีของดินแดนพิเศษแห่งนี้
ร่างกฎหมายดังกล่าวมุ่งแก้ไขประมวลรหัสรายได้ของเปอร์โตริโก เพื่อให้รายได้จากสินทรัพย์ดิจิทัลต้องเสียภาษีทั้งในระดับท้องถิ่นและรัฐบาลกลางเช่นเดียวกับรายได้ทั่วไป
Velázquez ชี้ว่า แม้จะมีการหลั่งไหลของนักลงทุนคริปโทเข้ามาในพื้นที่ แต่ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชนในภาพรวม กลับส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยพุ่ง คนท้องถิ่นถูกเบียดออกจากเมือง และภาครัฐต้องแบกรับภาระทางสังคมเพิ่มขึ้น ทั้งที่ประชากรเกือบ 40% ยังอยู่ในภาวะยากจน
เปอร์โตริโกกลายเป็นเป้าหมายยอดนิยมของนักลงทุนระดับโลกนับตั้งแต่ปี 2012 จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่มากับ กฎหมาย Act 20 และ Act 22 (ปัจจุบันรวมเป็น Act 60) ซึ่งยกเว้นภาษีกำไรจากการขายสินทรัพย์ ทำให้คนดังอย่าง Dan Morehead (Pantera Capital), Brock Pierce และ Logan Paul ต่างย้ายถิ่นฐานมายังที่นี่
สำนักงานของ Velázquez คาดการณ์ว่า ระหว่างปี 2020–2026 รัฐบาลเปอร์โตริโกอาจสูญเสียรายได้ภาษีมากถึง 4.5 พันล้านดอลลาร์ จากช่องโหว่กฎหมายเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ Jenniffer González-Colón ผู้ว่าการเปอร์โตริโก เสนอขยายอายุของ Act 60 ไปจนถึงปี 2055 โดยจะเริ่มเก็บภาษีกำไรจากการขายสินทรัพย์ในอัตราเพียง 4% ซึ่งยังต่ำกว่าภาษีของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่อาจสูงถึง 37%
ทั้งนี้ ยังไม่แน่ชัดว่าร่างกฎหมายของ Velázquez จะสามารถผ่านความเห็นชอบจากทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาที่ควบคุมโดยพรรครีพับลิกันได้หรือไม่ โดยในช่วงเวลานี้ สภาคองเกรสก็ยังอยู่ระหว่างพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญอีกหลายฉบับ ทั้งด้านการกำกับดูแลคริปโทและ Stablecoin
ขอบคุณข้อมูลจาก cointelegraph
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้เปรียบเทียบบิทคอยน์และทองคำในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในด้านจำนวนจำกัด ความสามารถในการเก็บมูลค่า ความปลอดภัย และความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย ทั้งสองสินทรัพย์มีบทบาทในการป้องกันความเสี่ยงและตอบโจทย์นักลงทุนในลักษณะที่ต่างกัน — บิทคอยน์เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและสนใจเทคโนโลยีใหม่ ส่วนทองคำเหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงระยะยาว บทสรุปเสนอแนวทาง “กระจายการลงทุน” ถือทั้งสองสินทรัพย์ตามสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโอกาสและความปลอดภัยในพอร์ตลงทุน
บทความนี้เปิดโปงปรากฏการณ์ “Pump and Dump” ในโลกคริปโต ที่อินฟลูเอนเซอร์ใช้ชื่อเสียงปลุกกระแสเหรียญเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน โดยมักได้รับค่าตอบแทนหรือถือเหรียญไว้ล่วงหน้า ก่อนราคาจะถูกปั่นขึ้นจากความเชื่อของผู้ติดตาม แล้วถูกเทขายจนเหรียญราคาร่วง กรณีศึกษา “SaveTheKids” ชี้ให้เห็นว่าแม้อินฟลูเอนเซอร์จะมีชื่อเสียง แต่ไม่ได้หมายความว่ามีจรรยาบรรณ นักลงทุนจึงต้องใช้วิจารณญาณและตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน
“Bitcoin Pizza Day” เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2010 เมื่อโปรแกรมเมอร์ชาวฟลอริดาชื่อ Laszlo Hanyecz ใช้ Bitcoin จำนวน 10,000 เหรียญซื้อพิซซ่า 2 ถาด ถือเป็นครั้งแรกที่ Bitcoin ถูกใช้ในการซื้อสินค้าจริงในชีวิตประจำวัน แม้เหรียญเหล่านั้นจะมีมูลค่าเพียง 1,300 บาทในตอนนั้น แต่หากเก็บไว้จนถึงปัจจุบัน มูลค่าจะทะลุ 33,000 ล้านบาท เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยน Bitcoin จากแนวคิดในกลุ่มเล็ก ๆ ให้กลายเป็นสินทรัพย์ระดับโลกที่มีอิทธิพลทางการเงินอย่างมหาศาล.
บทความนี้พาย้อนรอยคดีแชร์ลูกโซ่ในโลกคริปโต ตั้งแต่ BitConnect, OneCoin, PlusToken ไปจนถึงโปรเจกต์ไทยอย่าง HashBX และฟีเวอร์ ICO ในปี 2017–2018 สะท้อนให้เห็นรูปแบบหลอกลวงที่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหน้าตา แต่ยังคงใช้กลยุทธ์เดิมคือ “สัญญาผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น” โดยแฝงเทคโนโลยีทันสมัยมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ บทเรียนสำคัญคือ นักลงทุนต้องระวังกับคำพูดที่ดูดีเกินจริง และควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยได้ในระยะยาว.
IC Markets Global
FBS
ATFX
XM
Pepperstone
GTCFX
IC Markets Global
FBS
ATFX
XM
Pepperstone
GTCFX
IC Markets Global
FBS
ATFX
XM
Pepperstone
GTCFX
IC Markets Global
FBS
ATFX
XM
Pepperstone
GTCFX