简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยกเลิกข้อกำหนดให้ธนาคารต้องแจ้งล่วงหน้าเมื่อต้องการทำธุรกิจเกี่ยวกับคริปโต สะท้อนท่าทีที่ “เปิดกว้าง” มากขึ้นต่อสินทรัพย์ดิจิทัล แม้ยังมีกฎเข้มจากปี 2023 ที่ใช้ควบคุมอยู่เบื้องหลัง นักวิเคราะห์มองว่านี่อาจเป็นสัญญาณของการปรับตัวเพื่อรองรับโลกการเงินยุคใหม่ แต่ก็ยังไม่ใช่ “ไฟเขียวเต็มรูปแบบ” แก่วงการคริปโต.
เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ได้ประกาศเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการกำกับดูแลกิจกรรมของธนาคารพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซี โดย ยกเลิกข้อกำหนดเดิมที่เคยบังคับให้สถาบันการเงินต้องแจ้งล่วงหน้า หากต้องการเข้าไปดำเนินธุรกิจในโลกคริปโต
จากนี้ไป ธนาคารต่าง ๆ ในสหรัฐฯ สามารถดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลได้ โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบหรือรอการอนุมัติจาก Fed ล่วงหน้าอีกต่อไป ขอเพียงปฏิบัติตามข้อกำหนดทั่วไปในระดับมาตรฐาน เช่นเดียวกับกิจกรรมทางการเงินประเภทอื่น ๆ
โฆษกของธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุอย่างชัดเจนว่า “Fed ไม่ได้คาดหวังให้ธนาคารต้องแจ้งล่วงหน้าถ้าจะทำกิจกรรมเกี่ยวกับคริปโตอีกต่อไป… ตอนนี้เราจะใช้การกำกับดูแลตามขั้นตอนปกติแทน”
อ่านให้ดี… Fed กำลัง “ถอย” หรือ “ปรับเกม” กันแน่?
แม้ดูเผิน ๆ จะเหมือนเป็นการเปิดไฟเขียวให้วงการคริปโตจากภาครัฐ แต่เมื่อมองลึกลงไป การยกเลิกข้อกำหนดนี้อาจสะท้อนความเปลี่ยนแปลงในท่าทีของ Fed ที่ต้องการ “ลดอคติ” ต่อคริปโต และจัดการมันในฐานะผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทหนึ่ง ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมอีกต่อไป
นอกจากนี้ Fed ยังได้ยกเลิกขั้นตอน “ต้องขอความเห็นชอบ” สำหรับกิจกรรมเกี่ยวกับ USD token (เหรียญดอลลาร์ดิจิทัลที่ออกโดยเอกชน) และ ถอนตัวจากแถลงการณ์ร่วมกับ FDIC และ OCC ซึ่งเคยร่วมกันออกมาชี้ถึงความเสี่ยงในตลาดคริปโตเมื่อปีก่อน
แบงก์เตรียมลุย คริปโตสายสถาบันกำลังมา?
แม้แนวปฏิบัติจากเดือนมกราคม 2023 ที่มีเนื้อหาเข้มงวดยังคงมีผลอยู่ และทำให้เกิดความสับสนในระดับหนึ่ง แต่หลายฝ่ายก็เริ่มมองเห็นโอกาสว่า ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ อาจหันมาสร้างผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับคริปโตมากขึ้น
เพราะเมื่อไม่ต้องขออนุมัติล่วงหน้า ก็เท่ากับลดแรงเสียดทานในการพัฒนาและเปิดตัวบริการใหม่ ๆ
นักวิเคราะห์บางรายชี้ว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจเป็น “หมากซ้อน” ของ Fed ที่พยายามปรับตัวเข้ากับโลกการเงินยุคใหม่ ขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งเครื่องมือกำกับควบคุมในระดับเบื้องหลัง
ต้องจับตาต่อ แม้ทางดูโล่ง แต่กฎเดิมยังไม่ไปไหน
แม้จะมีการปลดล็อกบางส่วน แต่เส้นทางของธนาคารกับคริปโตในสหรัฐฯ ยังไม่ถึงกับเปิดโล่งเสียทีเดียว เพราะแนวทางจากปี 2023 ที่ออกโดย Fed ยังคงอยู่ และเป็นเสมือนแนวกันชนที่จำกัดขอบเขตการเคลื่อนไหวอยู่พอสมควร
สรุปคือ แม้กฎ “ต้องแจ้งล่วงหน้า” จะถูกยกเลิกแล้ว แต่กฎ “ต้องระวังตัว” ยังมีผลอยู่เต็ม ๆ
เกมนี้จึงยังไม่ใช่เวทีเปิดโล่ง หากแต่เป็นสนามใหม่ที่กำลังถูกตีกรอบใหม่แบบไม่เป็นทางการ
ขอบคุณข้อมูล coincu
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้เปรียบเทียบบิทคอยน์และทองคำในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในด้านจำนวนจำกัด ความสามารถในการเก็บมูลค่า ความปลอดภัย และความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย ทั้งสองสินทรัพย์มีบทบาทในการป้องกันความเสี่ยงและตอบโจทย์นักลงทุนในลักษณะที่ต่างกัน — บิทคอยน์เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและสนใจเทคโนโลยีใหม่ ส่วนทองคำเหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงระยะยาว บทสรุปเสนอแนวทาง “กระจายการลงทุน” ถือทั้งสองสินทรัพย์ตามสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโอกาสและความปลอดภัยในพอร์ตลงทุน
บทความนี้เปิดโปงปรากฏการณ์ “Pump and Dump” ในโลกคริปโต ที่อินฟลูเอนเซอร์ใช้ชื่อเสียงปลุกกระแสเหรียญเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน โดยมักได้รับค่าตอบแทนหรือถือเหรียญไว้ล่วงหน้า ก่อนราคาจะถูกปั่นขึ้นจากความเชื่อของผู้ติดตาม แล้วถูกเทขายจนเหรียญราคาร่วง กรณีศึกษา “SaveTheKids” ชี้ให้เห็นว่าแม้อินฟลูเอนเซอร์จะมีชื่อเสียง แต่ไม่ได้หมายความว่ามีจรรยาบรรณ นักลงทุนจึงต้องใช้วิจารณญาณและตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน
“Bitcoin Pizza Day” เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2010 เมื่อโปรแกรมเมอร์ชาวฟลอริดาชื่อ Laszlo Hanyecz ใช้ Bitcoin จำนวน 10,000 เหรียญซื้อพิซซ่า 2 ถาด ถือเป็นครั้งแรกที่ Bitcoin ถูกใช้ในการซื้อสินค้าจริงในชีวิตประจำวัน แม้เหรียญเหล่านั้นจะมีมูลค่าเพียง 1,300 บาทในตอนนั้น แต่หากเก็บไว้จนถึงปัจจุบัน มูลค่าจะทะลุ 33,000 ล้านบาท เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยน Bitcoin จากแนวคิดในกลุ่มเล็ก ๆ ให้กลายเป็นสินทรัพย์ระดับโลกที่มีอิทธิพลทางการเงินอย่างมหาศาล.
บทความนี้พาย้อนรอยคดีแชร์ลูกโซ่ในโลกคริปโต ตั้งแต่ BitConnect, OneCoin, PlusToken ไปจนถึงโปรเจกต์ไทยอย่าง HashBX และฟีเวอร์ ICO ในปี 2017–2018 สะท้อนให้เห็นรูปแบบหลอกลวงที่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหน้าตา แต่ยังคงใช้กลยุทธ์เดิมคือ “สัญญาผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น” โดยแฝงเทคโนโลยีทันสมัยมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ บทเรียนสำคัญคือ นักลงทุนต้องระวังกับคำพูดที่ดูดีเกินจริง และควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยได้ในระยะยาว.
Neex
EC Markets
FXTM
STARTRADER
Exness
FXCM
Neex
EC Markets
FXTM
STARTRADER
Exness
FXCM
Neex
EC Markets
FXTM
STARTRADER
Exness
FXCM
Neex
EC Markets
FXTM
STARTRADER
Exness
FXCM