简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:บทความกล่าวถึงคดีแชร์แม่มณี ซึ่งใช้โซเชียลมีเดียสร้างภาพความร่ำรวยเพื่อชักชวนให้คนร่วมลงทุนในระบบแชร์ลูกโซ่ จนมีผู้เสียหายกว่า 4,000 ราย สูญเงินรวมกว่า 1,400 ล้านบาท ชี้ให้เห็นอันตรายของการลงทุนที่ไร้การตรวจสอบ และเตือนให้มีสติเมื่อเจอข้อเสนอที่ “ดีเกินจริง”
แม่มณี หรือ น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช ไม่ได้เริ่มต้นจากนักการเงิน ไม่ได้มีดีกรีนักลงทุน ไม่เคยเรียนด้านเศรษฐศาสตร์ เธอเป็นแม่ค้าออนไลน์ที่ใช้การ “ไลฟ์สด” ขายของเป็นหลัก จนเริ่มมีฐานแฟนคลับติดตามจำนวนมาก ไม่นานนัก เธอเริ่มเปลี่ยนภาพลักษณ์ตัวเองให้หรูหรา โชว์ทรัพย์สิน ซื้อทองคำหนักหลายสิบบาท เปิดตัวรถหรูหลายคัน ไลฟ์สดแจกเงิน ทำบุญ ถวายทอง สร้างวัด สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้ติดตาม “เชื่อ” ว่าเธอมีรายได้จากธุรกิจบางอย่างที่มั่นคง จนกลายเป็นความศรัทธา จากนั้นจึงเปิดระบบ “ฝากเงิน” ที่ให้ผลตอบแทนสูงผิดปกติ แต่ก็มีคนแห่เข้าร่วมจำนวนมาก เพราะ “ดอกเบี้ยเข้าจริง” ในช่วงแรก
หลอกยังไงให้ดูเหมือนลงทุนจริง
แม่มณีอ้างว่าระบบของเธอคือ “แชร์ลูกโซ่การลงทุน” โดยจะเอาเงินไปหมุนต่อในธุรกิจหลายแขนง เช่น การเงิน บริการ ฯลฯแต่ไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่แสดงถึงธุรกิจเหล่านั้นอย่างโปร่งใส สิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือ “นำเงินจากคนใหม่ไปจ่ายคนเก่า” ซึ่งเป็นกลไกของ แชร์ลูกโซ่ (Ponzi Scheme) โดยตรง ช่วงแรกเงินยังไหลเวียนดี คนที่ได้รับดอกเบี้ยก็กลายเป็นพยานชั้นดีให้แชร์ดูน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น บางคนยังโพสต์อวดสลิปเงินเข้า และแนะนำเพื่อน ญาติ คนในครอบครัวให้มาร่วมด้วย เมื่อมีคนแห่กันเข้าร่วมมากขึ้น เงินไหลเข้าก็มากขึ้น และแชร์ก็ “โตเร็วเกินควบคุม”
จุดแตกหัก: เมื่อระบบล้ม และทุกคนรู้ตัวว่าโดนหลอก
ปลายปี 2562 ระบบเริ่มล่ม แม่มณีเริ่มจ่ายเงินคืนไม่ได้ บางคนถอนเงินไม่ทัน บางคนถูกบล็อกจากกลุ่มแชท
เสียงร้องเรียนเริ่มกระหึ่มในโซเชียล และไม่นานนัก ความเสียหายก็ถูกเปิดเผย
มีผู้เสียหายกว่า 4,000 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1,400 ล้านบาท
แม่มณีและแฟนหนีออกนอกพื้นที่ ก่อนถูกตำรวจตามจับได้ในเวลาไม่นาน โดยอายัดทรัพย์สินต่าง ๆ รวมถึงรถหรู ทองคำ และเงินสดอีกจำนวนมาก
ทำไมแชร์นี้ถึงได้ผล? เพราะอารมณ์ชนะเหตุผล
สิ่งที่ทำให้แชร์แม่มณีได้ผล ไม่ใช่แค่เพราะตัวเลขผลตอบแทนที่สูง แต่เพราะเธอ “สร้างภาพความสำเร็จ” ผ่านโซเชียลได้อย่างแนบเนียน ไลฟ์สดทุกวัน โชว์ของจริง แจกเงินจริง มีแฟนคลับเชียร์จริง คนจำนวนมากไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่เช็กความน่าเชื่อถือ แต่เชื่อเพราะรู้สึกว่า “เธอดูรวยจริง ใจดีจริง” การลงทุนจึงกลายเป็น “ศรัทธา” มากกว่า “การวิเคราะห์”
บทเรียนจากคดีแชร์แม่มณี
สรุป
คดีแชร์แม่มณีไม่ใช่แค่เรื่องการหลอกเงิน แต่เป็นคดีตัวอย่างของ “ยุคข้อมูลล้น” ที่ใครก็สามารถสร้างภาพให้ดูน่าเชื่อถือได้ ในโลกที่ความไว้วางใจเกิดจากยอดวิว ยอดแชร์ และไลฟ์สด…สิ่งที่คุณต้องมีติดตัวตลอดเวลา ไม่ใช่ดวง ไม่ใช่เหรียญเสี่ยงทาย แต่คือ “สติ” และ “คำถาม” หากอะไรดูดีเกินจริง มักจะไม่จริง และเมื่อความฝันของคุณต้องพึ่งคนแปลกหน้า — จงตื่นให้ไว ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้เปิดโปงปรากฏการณ์ “Pump and Dump” ในโลกคริปโต ที่อินฟลูเอนเซอร์ใช้ชื่อเสียงปลุกกระแสเหรียญเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน โดยมักได้รับค่าตอบแทนหรือถือเหรียญไว้ล่วงหน้า ก่อนราคาจะถูกปั่นขึ้นจากความเชื่อของผู้ติดตาม แล้วถูกเทขายจนเหรียญราคาร่วง กรณีศึกษา “SaveTheKids” ชี้ให้เห็นว่าแม้อินฟลูเอนเซอร์จะมีชื่อเสียง แต่ไม่ได้หมายความว่ามีจรรยาบรรณ นักลงทุนจึงต้องใช้วิจารณญาณและตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน
TriumphFX อ้างเป็นโบรกเกอร์มืออาชีพในตลาด Forex แต่กลับหลอกลวงนักลงทุนจนสูญเงินกว่า 180 ล้านบาท ทั้งที่เคยถูกเตือนจากหลายประเทศมาแล้ว ปัจจุบันกำลังถูกสอบสวนหลายคดี พร้อมโทษหนักถึงขั้นจำคุก-เฆี่ยนตี เหตุการณ์นี้สะท้อนว่า “อย่าหลงเชื่อผลตอบแทนสูงเกินจริง” โดยเฉพาะจากแพลตฟอร์มที่ไร้การกำกับ
ในปี 1869 เกิดเหตุการณ์ “Black Friday” ในสหรัฐฯ เมื่อ Jay Gould และ James Fisk สองนักเก็งกำไรชื่อดัง ใช้เส้นสายในรัฐบาลและข้อมูลวงใน ปั่นราคาทองคำขึ้นสูงลิ่ว เพื่อโกยกำไร จากนั้นจดหมายลับที่เปิดเผยแผนการถูกส่งถึงประธานาธิบดี Grant ทำให้รัฐบาลขายทองออกมาทันที ราคาทองร่วงหนัก นักลงทุนล้มละลาย ตลาดพังหนัก เหตุการณ์นี้สอนให้รู้ว่าอำนาจ ความสัมพันธ์ และข้อมูลวงใน สามารถเขย่าตลาดได้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม
“มีคนอ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากคุณ พร้อมแนบบัตรประชาชน มาที่ธนาคารเพื่อเปิดบัญชีใหม่ ซึ่งเราเกรงว่าจะถูกนำไปใช้เป็นบัญชีม้า”
GO Markets
FXCM
ATFX
EC Markets
XM
Trive
GO Markets
FXCM
ATFX
EC Markets
XM
Trive
GO Markets
FXCM
ATFX
EC Markets
XM
Trive
GO Markets
FXCM
ATFX
EC Markets
XM
Trive